3. นางเปรมปรีดิ์มีลูกชายสามคน คือ ข้าวกล้อง ข้าวเปลือก และข้าวปั้น ลูกชายทั้งสามคนทำงานแล้ว และแยกไปอยู่ต่างหาก แต่ทุกคนจะแวะมาเยี่ยมแม่เสมอ โดยตกลงกันว่า ข้าวกล้องจะมาเยี่ยมแม่ทุก 4 วัน ข้าวเปลือกจะมาเยี่ยมแม่ทุก 5 วัน และข้าวปั้นมาเยี่ยมแม่ทุก 6 วัน ถ้าลูกทั้งสามมาเยี่ยมแม่พร้อมกันในวันที่ 14 เมษายน จงหาว่าครั้งต่อไปแม่จะได้พบลูกพร้อมกันสองคนเมื่อใด และพบลูกพร้อมกันทั้งสามคนเมื่อใด
วิธีทำ
ข้าวกล้องมาเยี่ยมแม่ทุก 4 วัน
ข้าวเปลือกมาเยี่ยมแม่ทุก 5 วัน
ข้าวปั้นมาเยี่ยมแม่ทุก 6 วัน
หาจำนวนวันที่ลูก 2 คนจะมาเยี่ยมแม่พร้อมกันอีกครั้งโดยการหา ค.ร.น.
 
ค.ร.น. ของ 4 กับ 5 คือ 20
นั่นคือ ข้าวกล้องและข้าวเปลือกจะมาเยี่ยมแม่ครั้งต่อไปพร้อมกันในอีก 20 วัน
 
ค.ร.น ของ 4 กับ 6 คือ 12
นั่นคือ ข้าวกล้องและข้าวปั้นจะมาเยี่ยมแม่ครั้งต่อไปพร้อมกันในอีก 12 วัน
 
ค.ร.น. ของ 5 กับ 6 คือ 30
นั่นคือ ข้าวเปลือกและข้าวปั้นจะมาเยี่ยมแม่ครั้งต่อไปพร้อมกันในอีก 30 วัน
 
จะได้ว่า ครั้งต่อไปแม่จะได้พบลูกพร้อมกันสองคนคือข้าวกล้องและข้าวปั้น
ในอีก 12 วัน นั่นคือวันที่ 28 เมษายน
 
หาจำนวนวันที่ลูก 3 คนจะมาเยี่ยมแม่พร้อมกันอีกครั้งโดยการหา ค.ร.น. ของ 4, 5, 6
ค.ร.น. ของ 4, 5 และ 6 คือ 60
จะได้ว่า ครั้งต่อไปแม่จะได้พบลูกพร้อมกันสามคนในอีก 60 วันข้างหน้า
นั่นคือวันที่ 13 มิถุนายน
ตอบ แม่จะได้พบลูกพร้อมกันสองคนในวันที่ 28 เมษายน และจะได้พบลูกพร้อมกันสามคนในวันที่ 13 มิถุนายน
 
4. นักเรียนกลุ่มหนึ่งเป็นชาย 64 คน เป็นหญิง 96 คน ถ้าต้องการจัดแถวนักเรียนชายและนักเรียนหญิงให้ได้แถวละเท่าๆ กัน และให้ได้แถวยาวที่สุด โดยไม่ให้นักเรียนชายและนักเรียนหญิงอยู่ในแถวเดียวกัน จะจัดได้กี่แถวและแถวละกี่คน
วิธีทำ
หาจำนวนคนในแต่ละแถวโดยการหา ห.ร.ม. ของ 64 และ 96
ห.ร.ม. ของ 64 และ 96 คือ 32
นั่นคือ จะจัดแถวนักเรียนแถวละ 32 คน โดยที่
นักเรียนชายจัดแถวได้ 64 \(\mathtt{\div}\) 32 = 2 แถว
นักเรียนหญิงจัดแถวได้ 96 \(\mathtt{\div}\) 32 = 3 แถว
จะได้แถวทั้งหมด 2 + 3 = 5 แถว
ตอบ จัดแถวนักเรียนได้ 5 แถว แถวละ 32 คน
 
5. โรงงานผลิตอาหารแช่แข็งแห่งหนึ่ง ผลิตอาหารทะเลแช่แข็งโดยการนำอาหารทะเลมาล้างทำความสะอาด แล้วตัดแต่งให้มีลักษณะตามต้องการโดยใช้น้ำแข็งช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของอาหารให้อยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส จากนั้น นำอาหารไปต้มให้สุกโดยเพิ่มอุณหภูมิของอาหารขึ้น 120 องศาเซลเซียส แล้วจึงนำมาแช่แข็งแบบเร็ว โดยการทำให้อาหารมีอุณหภูมิ -25 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 30 นาที ขั้นตอนสุดท้าย คือ การเก็บอาหารแช่แข็งไว้ในห้องเย็น โดยรักษาอุณหภูมิของอาหารไว้ที่ -18 องศาเซลเซียส ก่อนที่จะส่งไปยังร้านค้าต่อไป
จากข้อมูลที่กำหนด จงตอบคำถามต่อไปนี้
1) ก่อนที่จะนำอาหารไปแช่แข็งแบบเร็ว อาหารมีอุณหภูมิกี่องศาเซลเซียส
วิธีคิด
เริ่มต้นควบคุมอุณหภูมิของอาหารให้อยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส
นำอาหารไปต้มให้สุกโดยเพิ่มอุณหภูมิของอาหารขึ้น 120 องศาเซลเซียส
จากนั้นนำมาแช่แข็งแบบเร็ว
วิธีทำ
ก่อนนำอาหารไปแช่แข็งแบบเร็ว อาหารมีอุณหภูมิ 5 + 120 = 125 องศาเซลเซียส
ตอบ 125 องศาเซลเซียส
 
2) อาหารที่ต้มสุกแล้วถูกลดอุณหภูมิลงเท่าไร เพื่อให้กลายเป็นอาหารแช่แข็ง
วิธีทำ
จากข้อ 1) อาหารที่ต้มสุกแล้วถูกลดอุณหภูมิลงจาก 125 องศาเซลเซียส
ให้มีอุณหภูมิ -25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการแช่แข็งแบบเร็ว
นั่นคือ อาหารที่ต้มสุกแล้วถูกลดอุณหภูมิลง 125 – (-25)
 
 = 125 + 25
 = 150 องศาเซลเซียส
ตอบ 150 องศาเซลเซียส
 
3) ในขั้นตอนการแช่แข็งแบบเร็ว เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที อุณหภูมิของอาหารแช่แข็งเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉลี่ยเท่าไร
วิธีทำ
จากข้อ 2) การแช่แข็งแบบเร็วทำให้อุณหภูมิลดลง 150 องศาเซลเซียส
นั่นคือ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไป -150 องศาเซลเซียส ในเวลา 30 นาที
จะได้ว่า ในเวลา 1 นาที อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไป -150 \(\mathtt{\div}\) 30 = -5 องศาเซลเซียส
ดังนั้น อุณหภูมิของอาหารแช่แข็งเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉลี่ย -5 องศาเซลเซียสต่อนาที
ตอบ -5 องศาเซลเซียสต่อนาที
 
6. ใน ค.ศ. 1999 ทีมสำรวจของประเทศสหรัฐอเมริกาวัดความสูงของยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ประมาณ 29,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ถ้าที่ระดับน้ำทะเลมีอุณหภูมิเป็น 15 องศาเซลเซียส อยากทราบว่า บนยอดเขาเอเวอร์เรสต์จะมีอุณหภูมิประมาณกี่องศาเซลเซียส เมื่อความสูงที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิจะลดลง 2 องศาเซลเซียส
วิธีทำ
ความสูงที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1000 ฟุต อุณหภูมิจะลดลง 2 องศาเซลเซียส
ความสูง 29,000 ฟุต อุณหภูมิจะลดลง \(\mathtt{\frac{29,000}{1,000}}\) x 2 = 58 องศาเซลเซียส
ที่ระดับน้ำทะเลมีอุณหภูมิเป็น 15 องศาเซลเซียส
บนยอดเขาเอเวอร์เรสต์จะมีอุณหภูมิประมาณ    15 – 58
 
 
 = 15 + (-58)
 = -(58 – 15)
 = -43 องศาเซลเซียส
ตอบ -43 องศาเซลเซียส
 
7. จงใช้ข้อมูลจากอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวในหน่วยองศาเซลเซียสของดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยะที่แสดงดังภาพด้านล่าง ตอบคำถามต่อไปนี้
อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวดาวเคราะห์
1) ดาวเคราะห์ดวงใด มีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวสูงที่สุด และมีอุณหภูมิประมาณกี่องศาเซลเซียส
ตอบ ดาวศุกร์ มีอุณหภูมิประมาณ 470 องศาเซลเซียส
 
2) ดาวเคราะห์ดวงใด มีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวต่ำที่สุด และมีอุณหภูมิประมาณกี่องศาเซลเซียส
ตอบ ดาวเนปจูน มีอุณหภูมิประมาณ -200องศาเซลเซียส
 
3) ดาวพฤหัสบดีมีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวมากกว่าดาวเนปจูนอยู่ประมาณกี่องศาเซลเซียส
วิธีทำ
ดาวพฤหัสบดีมีอุณหภูมิเฉลี่ย -110 องศาเซลเซียส
ดาวเนปจูนมีอุณหภูมิเฉลี่ย -200 องศาเซลเซียส
ดาวพฤหัสบดีมีอุณหภูมิเฉลี่ยมากกว่าดาวเนปจูน    -110 – (-200)
 
 
 = -110 + 200
 = 200 – 110
 = 90 องศาเซลเซียส
ตอบ 90 องศาเซลเซียส
 
4) ผลรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์สูงกว่าหรือต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวเนปจูนอยู่ประมาณกี่องศาเซลเซียส
วิธีทำ
ดาวพฤหัสบดีมีอุณหภูมิเฉลี่ย -110 องศาเซลเซียส
ดาวเสาร์มีอุณหภูมิเฉลี่ย -140 องศาเซลเซียส
ผลรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
 
 
 = -110 + (-140)
 = -(110 + 140)
 = -250 องศาเซลเซียส
ดาวเนปจูนมีอุณหภูมิเฉลี่ย -200 องศาเซลเซียส
จะได้ว่า ผลรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
ต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของดาวเนปจูน -200 – (-250)
 
 
 = -200 + 250
 = 250 – 200
 = 50 องศาเซลเซียส
ตอบ ผลรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของดาวเนปจูน 50 องศาเซลเซียส
 
5) ดาวเคราะห์ดวงใดที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวน้อยกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกอยู่ประมาณ 3 เท่า ของอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลก
วิธีทำ
อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกเท่ากับ 15 องศาเซลเซียส
3 เท่าของอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกเท่ากับ 3 x 15 = 45 องศาเซลเซียส
ดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิน้อยกว่าพื้นผิวโลกอยู่ประมาณ 3 เท่าของอุณหภูมิบนพื้นผิวโลก
จะมีอุณหภูมิประมาณ    15 – 45
 
 
 = 15 + (-45)
 = -(45 – 15)
 = -30 องศาเซลเซียส
จากรูป จะเห็นว่าดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิว -30 องศาเซลเซียสคือดาวอังคาร
ดังนั้น ดาวอังคารมีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวน้อยกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลกอยู่ประมาณ 3 เท่าของอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวโลก
ตอบ ดาวอังคาร
 
6) ถ้าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวอังคารลดลงไปอีก 6 เท่าของอุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวอังคาร แล้วอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวอังคารจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวยูเรนัสอยู่ประมาณกี่องศาเซลเซียส
วิธีทำ
อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวอังคารเท่ากับ -30 องศาเซลเซียส
6 เท่าของอุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวอังคารเท่ากับ    6 x (-30)
 
 = -(6 x 30)
 = -180 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวยูเรนัสเท่ากับ -195 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวอังคารที่ลดลงไป 6 เท่าของอุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวอังคาร
จะสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวยูเรนัส   -180 – (-195)
 
 
 = -180 + 195
 = 195 – 180
 = 15 องศาเซลเซียส
ตอบ อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวอังคารสูงกว่าดาวยูเรนัส 15 องศาเซลเซียส
 
7) นักเรียนคิดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ส่วนใหญ่สัมพันธ์อย่างไรกับระยะห่างจากดวงอาทิตย์ถึงดาวเคราะห์ดวงนั้นๆ
วิธีทำ
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์กับดาวเคราะห์เรียงตามลำดับจากน้อยไปหามาก ดังนี้
ลำดับ ดาวเคราะห์ อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิว
(องศาเซลเซียส)
1 ดาวพุธ 430
2 ดาวศุกร์ 470
3 โลก 15
4 ดาวอังคาร -30
5 ดาวพฤหัสบดี -110
6 ดาวเสาร์ -140
7 ดาวยูเรนัส -195
8 ดาวเนปจูน -200
จากตารางจะได้ว่า ยิ่งดาวเคราะห์มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้นก็จะยิ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวลดลง ยกเว้นดาวศุกร์ที่มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าดาวพุธ แต่มีอุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวสูงกว่าดาวพุธ
ตอบ อุณหภูมิเฉลี่ยบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ส่วนใหญ่จะลดลงเมื่อระยะห่างจากดวงอาทิตย์ถึงดาวเคราะห์ดวงนั้นๆ เพิ่มขึ้น